“พื้นไวนิล นิยมเรียกว่า พื้นกระเบื้องยางไวนิล มีลวดลาดเสมือนไม้แท้ แต่มีความทนทาน ง่ายต่อการใช้งาน ราคาถูก เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม”
16 Jun 2023
ปัจจุบัน เทคโนโลยีการสร้าง อาคาร - บ้านเรือน ทันสมัยมากกว่าในอดีต จำเป็นต้องคิดค้นวัสดุใหม่ ๆ ทดแทนของเดิมจากธรรมชาติ ที่เริ่มหายาก มีราคาแพง นับเป็นเรื่องท้าทาย แต่ก็จำเป็นทั้งในมุมของผู้อยู่อาศัย คนขาย และนักออกแบบ โดยเฉพาะการคัดสรรวัสดุปูพื้นให้ตอบโจทย์ต่อการใช้งาน แน่นอนสปอต์ไลท์ทุกดวง ฉายแสงมาที่ “พื้นไวนิล”
Floorista พามาทำความรู้จักกับ พื้นไวนิล - Vinyl ในแบบครบมุม 360 องศา พื้นประเภทนี้ ดีอย่างไร มีกี่ประเภท แตกต่างจากพื้นประเภทอื่นอย่า่งไร ตามอ่านกันได้เลย สรุปมาให้แล้ว
พื้นไวนิล คือ วัสดุปูพื้นที่ทำมาจาก “ยาง” เป็นหลัก ออกแบบและผลิตให้คล้ายกับลายไม้ เสมือนจริง ! เนื่องจากมีส่วนประกอบทำด้วยยาง จึงนิยมเรียกอีกชื่อว่า กระเบื้องยางพื้นไวนิล นับเป็นการพัฒนาต่อยอดมาจาก กระเบื้องยางแบบปกติ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเดิมที่มีอยู่ก่อนแล้ว
ปัจจุบัน กระเบื้องยาง พื้นไวนิล ได้รับความนิยมมาก การออกแแบบสถานที่ยุคใหม่ มักเลือกใช้ ไม่ว่าจะเป็นบ้าน อาคาร สำนักงาน หอประชุม พื้นที่จัดนิทรรศการ โชว์รูม ฯลฯ เลือกใช้พื้นไวนิลเป็นหลัก ด้วยจุดเด่นค่อนข้างเยอะ ทนทาน มีความยืดหยุ่นสูง ราคาถูกกว่าไม้จริง ไม่ต้องตัดไม้มาทำพื้น รักษ์โลก !
พื้นไวนิล - Vinyl Floor เทคโนโลยีวัสดุปูพื้นรุ่นใหม่ นอกจากทดแทนการใช้ไม้จริงได้แล้ว กระเบื้องยางไวนิล มีคุณสมบัติพิเศษ รวมไปถึงจุดเด่น ที่น่าใช้อยู่หลายเรื่อง
กระเบื้องยาง พื้นไวนิล หากแบ่งตามวัสดุที่ใช้ในการผลิต สามารถแยกเป็น 2 ประเภท
พื้นไวนิลในกลุ่มนี้ ใช้วิธีการผลิตจากยางพารา 100% มีความเหนียว ยืดหยุ่นสูง ผิวสัมผัสค่อนข้างดี อ่อนนุ่ม รองรับแรงกระแทก จุดเด่นอยู่ที่วัสดุธรรมชาติ ทนต่อสารเคมีกรดและด่าง จึงรองรับน้ำยาถูพื้น ทำความสะอาดได้บ่อยครั้ง สีไม่ซีด
สำหรับพื้นไวนิลที่ผลิตจากวัสดุสังเคราะห์ มี 2 แบบ แบ่งตามที่มาของส่วนผสม คือ พื้นไวนิลโพลียูรีเทน (พื้น PU) และ พื้นไวนิลพอลิไวนิล คลอไรด์ (พื้น PVC) ทั้งคู่ มีความเหนียวและทนทานกว่าพื้นยางพารา สู้ความร้อนจากแดดและอุณหภูมิ ไม่เหนียว ไม่กรอบง่าย
พื้นไวนิล มีส่วนประกอบสำคัญจากเลเยอร์ ซึ่งถูกนำมา -เรียงซ้อนต่อกันเป็นชั้น ๆ - จึงมีลักษณะคล้ายกับ “ขนมชั้น” เพื่อคงคุณสมบัติด้านต่าง ๆ ให้รองรับต่อการใช้งาน
เป็นชั้นที่ป้องกันริ้วรอยขีดข่วน มีความหนาสูงสุด 0.5 มิลลิเมตร
ส่วนที่แสดงลวดลาย สีสัน รวมไปถึงดีไซน์ที่แท้จริงของพื้นไวนิลชนิดนั้น นับเป็นส่วนที่มีความสำคัญมากในด้านการออกแบบ
ในเลเยอร์นี้มีการผสมคาร์บอน ช่วยในการดูดซับเสียง กลิ่น แรงกระแทก ทำให้พื้นมีความเหนียวขึ้น ช่วยป้องกันทั้งในเรื่องของการยืดและหดตัว ซึ่งอาจทำให้พื้นแตกหักได้
มีลักษณะโครงสร้างเป็นลายตารางหรือตาข่าย แข็งแรง ทนทาน โค้งงอและให้ตัวได้ในระดับหนึ่ง เพิ่มการยึดเกาะกับพื้นผิวด้านล่าง
หลายคนเข้าใจผิด คิดเองว่า พื้นไวนิล กับ พื้น SPC เป็นอันเดียวกัน แต่ความจริงไม่ใช่ ! ทั้งคู่แตกต่างกันอย่างชัดเจน คุณสมบัติก็ไม่เหมือนกัน สรุปให้ชัดเจนตรงนี้ “พื้นไวนิล” มีส่วนผสมของยาง อ่อนนุ่ม ผิวสัมผัสดี ซึมซับแรงกระแทก โค้งและให้ตัวได้พอประมาณ
แตกต่างจาก “พื้น SPC” หรือ ชื่อเต็ม Stone Plastic Composite ที่มีส่วนผสมระหว่างพลาสติกกับหิน จึงมีความแข็งแรง ทนทานกว่า แต่ก็กระด้าง ไม่ให้ตัว ซับแรงกระแทกน้อยกว่า มีโอกาสหักได้ง่าย
ทั้งหมด เป็นการปูความรู้พื้นฐาน ก่อนคิดปูพื้นไวนิลจริง ดังนั้น การมีดีไซน์และวัสดุปูพื้นให้เลือกเยอะ ย่อมเป็นการสร้างความได้เปรียบ ความคุ้มค่า และภูมิคุ้มกันที่ดี ตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างลงตัว
พื้นไวนิล คือ วัสดุปูพื้นยอดนิยมในยุคปัจจุบัน โดดเด่นด้วยดีไซน์แบบลายไม้ ผิวสัมผัสเสมือนธรรมชาติ แต่ไม่ใช่ไม้จริง ! ซึบซับแรงกระแทกได้ดี มีทั้งแบบส่วนผสมหลักจากยางธรรมชาติ หรือ ยางสังเคราะห์ จึงนิยมเรียกว่า “กระเบื้องยางไวนิล” อัดแน่นด้วยคุณสมบัติพิเศษ ทนทานสูง แต่สามารถให้ตัว ยืดหยุ่นได้ดี ทั้งหมดเกิดจากการเรียงซ้อนกันของเลเยอร์ หนาถึง 5 ชั้น ติดตั้งง่าย ราคาไม่แพง
แชร์บทความนี้