วิธีตรวจสอบงานปูพื้น เช็ก Defect พื้นทุกประเภท ก่อนรับมอบโครงการ

ปัจจุบัน วัสดุปูพื้น ที่จำหน่ายในท้องตลาดมีอยู่หลายประเภท แม้ขั้นตอนการติดตั้งจะมีความแตกต่างออกไป แต่ทว่าในส่วนของวิธีการ “ตรวจสอบงานพื้น” มีหลักสำคัญในการพิจารณาที่เหมือนกัน สามารถใช้ตรวจงานพื้นได้ทุกประเภท อาจจะแตกต่างกันบ้าง ก็เพียงเล็กน้อย ขึ้นอยู่กับวัสดุ

Floorista พามาดู วิธีตรวจเช็กงานปูกระเบื้องยาง ตรวจสอบงานปู พื้นทุกประเภท มีวิธีการเช็ก Defect ด้วยเทคนิคง่าย ๆ สามารถทำเองได้

7 วิธี ตรวจสอบงานปูพื้น เช็ก Defect พื้นทุกประเภท  

เปิดคู่มือ “วิธีตรวจสอบงานปูพื้น” ตรวจเช็ก Defect ก่อนรับมอบงานจากช่าง ผู้รับเหมา และติดตั้งพื้นโครงการ มีวิธีการตรวจรับพื้นอย่างไรบ้าง ติดตามอ่านรายละเอียดที่นี่ !

1. ดูภาพรวม เช็กความเรียบร้อยด้วย “ตาเปล่า” 

สิ่งแรกที่ทำได้ง่ายสุด คือ ตรวจเช็กสภาพพื้นห้องด้วย “ตาเปล่า” สามารถตรวจเช็กได้ตั้งแต่ขั้นตอนการปูพื้น ไปจนถึงส่งมอบงานให้ตัวลูกค้าเอง โดยเน้นดูความเรียบร้อย สวยงาม เทคนิควิธีการปู ต้องเป็นไปตาม Floor Plan ที่ออกแบบหรือคุยกันไว้ 

หากไม่เป็นไปตามที่ออกแบบ ผิดไปจากการดีไซน์ ควรรีบสอบถาม (ทักท้วง) โดยทันที เพื่อความเข้าใจที่ตรงกันกับช่างปูพื้น และ ผู้รับเหมา ไม่ต้องเสียเวลารื้อพื้นใหม่ !
 

2. ตรวจผิวสัมผัสของพื้นด้วย “มือ” และ “เท้า”

เมื่อช่างส่งงานปูพื้นเสร็จเรียบร้อยแล้ว เราสามารถตรวจสอบด้วยการใช้ “มือและเท้า” สัมผัสลงบนพื้น เพื่อดูความเรียบและเสมอกันทุกแผ่น หากพื้นไม่เรียบ อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุตามมาในอนาคต

วิธีการตรวจพื้นด้วยมือและเท้า ทำได้ง่ายมาก เพียงสวมถุงมือ / ถุงเท้า / และรองเท้า จากนั้น ลูบมือหรือลากเท้าให้ระนาบเป็นแนวตรง จากมุมห้องหนึ่งไปสู่อีกมุมหนึ่ง ทำซ้ำทั่วทั้งพื้นที่ หากพื้นห้องมีความราบเรียบเสมอกันทั้งหมด จะไม่มีจุดสะดุดเกิดขึ้นเลยแม้แต่นิดเดียว     

3. ใช้ “เหรียญ” หรือ “เกจวัดระดับ” ดูความราบเรียบ

การใช้เหรียญตรวจดูความสม่ำเสมอของระดับพื้น เมื่ออ่านแล้วอาจจะดูเป็นวิธีการแบบบ้าน ๆ แต่ใช้งานได้อย่างเห็นผล โดยนำเหรียญขนาดใหญ่ ตั้งแต่ 5 บาท หรือ 10 บาท มาวางตรงรอยต่อระหว่างพื้น หากพื้นอยู่ในระนาบเดียวกัน มีความเท่ากันระหว่างแผ่นกระเบื้องยาง เหรียญจะไม่เอียง ไม่กระดก หรือ เอนไปเช็กเอฟเฟกต์ ด้านใดด้านหนึ่ง

นอกจากนี้ เรายังสามารถใช้ “เกจวัดระดับ” ตรวจสอบความเรียบและระนาบของพื้นได้ด้วย โดยให้วางเกจวัดระดับไว้บนตำแหน่งของพื้นที่ต้องการตรวจสอบ จากนั้น สังเกตฟองอากาศบนเกจวัดระดับ ต้องอยู่บนจุดกึ่งกลางพอดี

4. เคาะพื้น ฟังเสียงความหนักแน่นโครงสร้าง

“เคาะพื้น” วิธียอดนิยมในการตรวจสอบงานปูพื้น ไม่ต้องหูเทพ… ก็พอจะฟังและแยกแยะออก โดยเราสามารถเคาะพื้นด้วยไขควงทั่วบริเวณห้อง การปูพื้นที่ได้มาตรฐาน เมื่อเคาะด้วยไขควงแล้ว ต้องมีเสียงทุ้มหนักแน่น ไม่กลวง แสดงว่าปูพื้นได้ดี วัสดุยึดติด (แน่น) กับพื้นชั้นล่าง ไม่มีโพรงช่องว่างเกิดขึ้น  

5. ตรวจสอบร่องยาแนว กาวปูกระเบื้อง และ จุดรอยต่อ

วัสดุปูพื้นในกลุ่มกระเบื้องเซรามิคและแกรนิตโต้ มีช่องว่างเป็นรอยต่อระหว่างแผ่น จำเป็นต้องใช้ยาแนว, ปูนขาว หรือ ปูนกาวปูกระเบื้อง เพื่อใช้เชื่อมต่อกัน ดังนั้น ควรตรวจสอบความสวยงามในการทายาแนว ต้องราบเรียบเท่ากันทุกแผ่น มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย ไม่ควรมีเนื้อเกินหรือล้นทะลักออกมา

สำหรับยาแนวมีให้เลือกหลากประเภท หลายเกรด คละสี เจ้าของบ้านหรือโครงการ ควรตรวจสอบสเปกให้เหมาะสมกับหน้างาน และตรงต่อความต้องการตามที่ตกลงกันไว

6. เช็ก Defect ดูตำหนิและจุดแตกหัก

ในส่วนของการเช็ก Defect นับเป็นการตรวจสอบงานปูพื้นที่มีความละเอียดที่สุด โดยไล่ดูไปทีละจุด เช็กทุกแผ่น เพื่อตรวจหาตำหนิ ความไม่เรียบร้อย เช่น พื้นโก่งงอ หลุดร่อน ระเบิด แตกหัก มีรอยร้าว ฯลฯ เมื่อพบตำหนิควรทำสัญลักษณ์ เช่น การติดโพสต์อิท เพื่อแจ้งให้ช่างทำการปรับปรุงในครั้งต่อไป

7. ตรวจสอบขั้นสุดท้าย หลังส่งงานที่แก้ไขแล้ว

นับเป็นการตรวจสอบงานปูพื้นขั้นตอนสุดท้าย ก่อนจะรับมอบงานจากช่างหรือผู้รับเหมา โดยเน้นตรวจสอบตำหนิ หรือ จุดบกพร้องที่เราเคยสั่งแก้ไปก่อนหน้านี้ หากได้รับการแก้ไขแล้วสามารถให้ผ่านได้เลย แต่หากยังไม่ได้รับการแก้ไข หรือ แก้แล้วยังไม่ดีพอ สามารถให้แก้ซ้ำจนกว่าจะผ่านได้

ทั้งหมดนี้ เป็นวิธีการตรวจสอบงานปูพื้น เช็ก Defect ตำหนิจุดต่าง ๆ โดยเป็นหลักการพื้นฐานที่สามารถใช้ร่วมกับพื้นได้เกือบทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นVinyl flooring, กระเบื้องยาง, พื้นพิมพ์ลายดิจิทัล, พื้นไฮบริดเอ็นจิเนียร์, SPC, LVT, พื้นลามิเนต ฯลฯ เพื่อความสมบูรณ์สูงสุดก่อนรับงาน

สรุปให้อ่านง่าย

ก่อนรับมอบงานทุกครั้ง จำเป็นต้องมีการตรวจสอบงานปูพื้น เพื่อเช็ก Defect ต่าง ๆ หากพบปัญหา ตำหนิ และจุดบกพร่อง ต้องให้ช่างหรือผู้รับเหมาเร่งแก้ไขโดยทันที แม้ว่าปัจจุบันจะมีพื้นให้เลือกอยู่หลายประเภท แต่วิธีตรวจสอบขั้นพื้นฐาน ยังคงมีความคล้ายคลึงกัน สามารถใช้ตรวจสอบร่วมกันได้ หัวใจสำคัญที่สุดของงานปูพื้น เน้นที่ความราบเรียบและสวยงามเป็นหลัก