พื้นไวนิล คืออะไร มีกี่ประเภท รวมข้อดี พื้นกระเบื้องยาง ที่คุณต้องหลงรัก

“พื้นไวนิล นิยมเรียกว่า พื้นกระเบื้องยางไวนิล มีลวดลาดเสมือนไม้แท้ หรือหินขัดแท้ รวมถึงสีสันที่สดใส แต่มีความทนทาน ง่ายต่อการใช้งาน ราคาถูก เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม”
ปัจจุบัน เทคโนโลยีการสร้าง อาคาร - บ้านเรือน ทันสมัยมากกว่าในอดีต จำเป็นต้องคิดค้นวัสดุใหม่ ๆ ทดแทนของเดิมจากธรรมชาติ ที่เริ่มหายาก มีราคาแพง นับเป็นเรื่องท้าทาย แต่ก็จำเป็นทั้งในมุมของผู้อยู่อาศัย คนขาย และนักออกแบบ โดยเฉพาะการคัดสรรวัสดุปูพื้นให้ตอบโจทย์ต่อการใช้งาน แน่นอนสปอต์ไลท์ทุกดวง ฉายแสงมาที่ “พื้นไวนิล”
เลือกอ่าน
Floorista พามาทำความรู้จักกับ พื้นไวนิล คืออะไร ในแบบครบมุม 360 องศา พื้นประเภทนี้ ดีอย่างไร มีกี่ประเภท แตกต่างจากพื้นประเภทอื่นอย่างไร ตามอ่านกันได้เลย สรุปมาให้แล้ว

พื้นไวนิล คืออะไร รู้จักสักนิด ก่อนเลือกใช้
พื้นไวนิล คือ วัสดุปูพื้นที่ทำมาจาก “ยาง” เป็นหลัก ออกแบบและผลิตให้คล้ายกับลายไม้ เสมือนจริง ! เนื่องจากมีส่วนประกอบทำด้วยยาง จึงนิยมเรียกอีกชื่อว่า กระเบื้องยางพื้นไวนิล นับเป็นการพัฒนาต่อยอดมาจาก กระเบื้องยางแบบปกติ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเดิมที่มีอยู่ก่อนแล้ว
ปัจจุบัน กระเบื้องยาง พื้นไวนิล ได้รับความนิยมมาก การออกแแบบสถานที่ยุคใหม่ มักเลือกใช้ ไม่ว่าจะเป็นบ้าน อาคาร สำนักงาน หอประชุม พื้นที่จัดนิทรรศการ โชว์รูม ฯลฯ เลือกใช้พื้นไวนิลเป็นหลัก ด้วยจุดเด่นค่อนข้างเยอะ ทนทาน มีความยืดหยุ่นสูง ราคาถูกกว่าไม้จริง ไม่ต้องตัดไม้มาทำพื้น รักษ์โลก !

ข้อดี “พื้นไวนิล” เปิดคุณสมบัติพิเศษ
พื้นไวนิล (Vinyl Flooring) เทคโนโลยีวัสดุปูพื้นรุ่นใหม่ นอกจากทดแทนการใช้ไม้จริงได้แล้ว กระเบื้องยางไวนิล มีคุณสมบัติพิเศษ รวมไปถึงจุดเด่น ที่น่าใช้อยู่หลายเรื่อง
- มิตรต่อสิ่งแวดล้อม พื้นไวนิลสามารถใช้แทน “พื้นไม้แท้” ลวดลายเสมือนจริง ใช้งานได้ทันที ไม่ขัดเขิน ออกแบบให้ใช้งานง่าย ลดระยะเวลาการทำงานด้านการเตรียมวัสดุ
- ดีไซน์สวยงาม มีให้เลือกเยอะ ลวดลายเสมือนจริง กระเบื้องยางไวนิลมีให้เลือกหลากหลายดีไซน์ แต่ในไทยส่วนใหญ่เป็นลายไม้ (เสมือนจริง) จึงมีพื้นหลายโทนสี ตั้งแต่น้ำตาลอ่อนแนวมินิมอล จนถึง โทนน้ำตาลเข้มแนวเรียบหรู
- แข็งแรง ทนทาน ดูแลรักษาง่าย เนื่องจากกระเบื้องยางไวนิล ทำมาจากวัสดุที่มีส่วนผสมของยาง จึงมีความแข็งแรงมาก ทนความชื้น ความร้อน ป้องกันรอยขีดข่วน และไม่เป็นอาหารของปลวก จึงไม่มีการผุตามมาในอนาคต ใช้งานได้ยาวนาน
- สะดวกในการติดตั้ง รองรับงานปูพื้นได้หลายรูปแบบ ใช้ระยะเวลาที่สั้นกว่า ปัจจุบันการปูพื้นไวนิล มีให้เลือก 2 รูปแบบหลัก ๆ คือ พื้นไวนิลแบบทากาว และ พื้นไวนิลแบบคลิ๊กล็อค
- ราคาไม่แพง พื้นไวนิลมีราคาถูกที่สุด เมื่อเปรียบเทียบกับพื้นประเภทอื่น ๆ ในกลุ่มที่มีลายไม้ จึงมีความคุ้มค่าต่อการลงทุง ทั้งในระยะสั้นและยาว

พื้นไวนิล มี 2 ประเภท แตกต่างที่วัสดุ
กระเบื้องยาง หรือพื้นไวนิล หากแบ่งตามวัสดุที่ใช้ในการผลิต สามารถแยกเป็น 2 ประเภท
ผลิตจากยางธรรมชาติ 100%
พื้นไวนิลในกลุ่มนี้ ใช้วิธีการผลิตจาก ยางพารา 100% มีความเหนียว ยืดหยุ่นสูง ผิวสัมผัสค่อนข้างดี อ่อนนุ่ม รองรับแรงกระแทก จุดเด่นอยู่ที่วัสดุธรรมชาติ ทนต่อสารเคมีกรดและด่าง จึงรองรับน้ำยาถูพื้น ทำความสะอาดได้บ่อยครั้ง สีไม่ซีด
ผลิตจากวัสดุสังเคราะห์
สำหรับพื้นไวนิลที่ผลิตจากวัสดุสังเคราะห์ มี 2 แบบ แบ่งตามที่มาของส่วนผสม คือ พื้นไวนิลโพลียูรีเทน (พื้น PU) และ พื้นไวนิลพอลิไวนิล คลอไรด์ (พื้น PVC) ทั้งคู่ มีความเหนียวและทนทานกว่าพื้นยางพารา สู้ความร้อนจากแดดและอุณหภูมิ ไม่เหนียว ไม่กรอบง่าย

หัวใจสำคัญของไวนิลอยู่ที่ “เลเยอร์”
พื้นไวนิล มีส่วนประกอบสำคัญจากเลเยอร์ ซึ่งถูกนำมา - เรียงซ้อนต่อกันเป็นชั้น ๆ - จึงมีลักษณะคล้ายกับ “ขนมชั้น” เพื่อคงคุณสมบัติด้านต่าง ๆ ให้รองรับต่อการใช้งาน
ชั้นที่ 1 บนสุด Coating Layer: เคลือบด้วยฟิลม์, ยูวี, นาโนซิลเวอร์ ป้องกันแสงแดด สีซีดจาง คงสภาพได้นานขึ้น
ชั้นที่ 2 Wear Layer: เป็นชั้นที่ป้องกันริ้วรอยขีดข่วน มีความหนาสูงสุด 0.5 มิลลิเมตร
ชั้นที่ 3 Decorative and Print Layer: ส่วนที่แสดงลวดลาย สีสัน รวมไปถึงดีไซน์ที่แท้จริงของพื้นไวนิลชนิดนั้น นับเป็นส่วนที่มีความสำคัญมากในด้านการออกแบบ
ชั้นที่ 4 Middle Layer: ในเลเยอร์นี้มีการผสมคาร์บอน ช่วยในการดูดซับเสียง กลิ่น แรงกระแทก ทำให้พื้นมีความเหนียวขึ้น ช่วยป้องกันทั้งในเรื่องของการยืดและหดตัว ซึ่งอาจทำให้พื้นแตกหักได้
ชั้นที่ 5 ล่างสุด Base Layer: มีลักษณะโครงสร้างเป็นลายตารางหรือตาข่าย แข็งแรง ทนทาน โค้งงอและให้ตัวได้ในระดับหนึ่ง เพิ่มการยึดเกาะกับพื้นผิวด้านล่าง

พื้นไวนิล VS พื้น SPC อย่าสับสน ทั้งคู่ไม่เหมือนกัน !
หลายคนเข้าใจผิด คิดเองว่า พื้นไวนิล กับ พื้น SPC เป็นอันเดียวกัน แต่ความจริงไม่ใช่ ! ทั้งคู่แตกต่างกันอย่างชัดเจน คุณสมบัติก็ไม่เหมือนกัน สรุปให้ชัดเจนตรงนี้ “พื้นไวนิล” มีส่วนผสมของยาง อ่อนนุ่ม ผิวสัมผัสดี ซึมซับแรงกระแทก โค้งและให้ตัวได้พอประมาณ
แตกต่างจาก “พื้น SPC” หรือ ชื่อเต็ม Stone Plastic Composite ที่มีส่วนผสมระหว่างพลาสติกกับหิน จึงมีความแข็งแรง ทนทานกว่า แต่ก็กระด้าง ไม่ให้ตัว ซับแรงกระแทกน้อยกว่า มีโอกาสหักได้ง่าย
ทั้งหมด เป็นการปูความรู้พื้นฐาน ก่อนคิดปูพื้นไวนิลจริง ดังนั้น การมีดีไซน์และวัสดุปูพื้นให้เลือกเยอะ ย่อมเป็นการสร้างความได้เปรียบ ความคุ้มค่า และภูมิคุ้มกันที่ดี ตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างลงตัว
สรุปให้อ่านง่าย
พื้นไวนิล คือ วัสดุปูพื้นยอดนิยมในยุคปัจจุบัน โดดเด่นด้วยดีไซน์แบบลายไม้ ผิวสัมผัสเสมือนธรรมชาติ แต่ไม่ใช่ไม้จริง ! ซึบซับแรงกระแทกได้ดี มีทั้งแบบส่วนผสมหลักจากยางธรรมชาติ หรือ ยางสังเคราะห์ จึงนิยมเรียกว่า “กระเบื้องยางไวนิล” อัดแน่นด้วยคุณสมบัติพิเศษ ทนทานสูง แต่สามารถให้ตัว ยืดหยุ่นได้ดี ทั้งหมดเกิดจากการเรียงซ้อนกันของเลเยอร์ หนาถึง 5 ชั้น ติดตั้งง่าย ราคาไม่แพง
พื้นไวนิล คือ วัสดุปูพื้นที่ทำจากยางเป็นหลัก เราจึงนิยมเรียกว่า "กระเบื้องยาง" มีลวดลายและสีสันเหมือนไม้หรือหินธรรมชาติ มีความทนทาน, ยืดหยุ่น, ราคาถูก และติดตั้งง่าย
พื้นไวนิลแบ่งเป็น 2 ประเภทหลักๆ ตามวัสดุที่ใช้ผลิต:
- พื้นไวนิลจากยางธรรมชาติ 100%
- พื้นไวนิลจากวัสดุสังเคราะห์ (PU และ PVC)
- เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
- มีดีไซน์สวยงามและหลากหลาย
- แข็งแรงทนทาน ดูแลรักษาง่าย
- ติดตั้งสะดวกและรวดเร็ว
- ราคาไม่แพง
- พื้นไวนิลทำจากยาง มีความอ่อนนุ่มและยืดหยุ่น
- พื้น SPC ทำจากส่วนผสมของพลาสติกและหิน มีความแข็งแรงและทนทานกว่า แต่ไม่ยืดหยุ่นเท่า
- พื้นไวนิลเหมาะสำหรับพื้นที่หลากหลาย เช่น บ้าน, สำนักงาน, ห้องประชุม, ร้านค้า และพื้นที่จัดแสดงสินค้า
ปัจจุบันการปูพื้นไวนิลมี 2 รูปแบบหลักๆ คือ:
- พื้นไวนิลแบบทากาว
- พื้นไวนิลแบบคลิ๊กล็อค
พื้นไวนิลดูแลรักษาง่าย เพียงแค่ทำความสะอาดด้วยการกวาดหรือถูด้วยน้ำยาทำความสะอาดทั่วไป
พื้นไวนิลมีความทนทานต่อความชื้นได้ดี จึงเหมาะสำหรับใช้ในพื้นที่ที่มีความชื้น เช่น ห้องครัว หรือห้องน้ำ แต่ถึงอย่างไรก็ตามไม่ควรปล่อยให้น้ำท่วมขังเป็นเวลานานๆ
อายุการใช้งานของพื้นไวนิลขึ้นอยู่กับการดูแลรักษาและการใช้งาน โดยทั่วไปมีอายุการใช้งาน 10-15 ปีหรือมากกว่านั้น
พื้นไวนิลมีราคาที่ค่อนข้างถูกเมื่อเปรียบเทียบกับวัสดุปูพื้นประเภทอื่นๆ ที่มีลายไม้ ทำให้มีความคุ้มค่าในการลงทุน ติดต่อทีมขาย
สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม:
โทร: 061-6950808
LINE ID: @floorista
หมายเหตุ:
- รูปแบบและสีของสินค้าจริง อาจแตกต่างจากภาพประกอบเล็กน้อย
- ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดตรวจสอบกับทางร้านก่อนสั่งซื้อ